เช็คลิสต์ 8 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ ใช้ได้ตลอดชีวิต

Shape Image One
เช็คลิสต์ 8 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ ใช้ได้ตลอดชีวิต

“เช็คลิสต์ 8 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ ใช้ได้ตลอดชีวิต”

เรียนภาษาอังกฤษ เริ่มจากตรงไหนดี ?

อยากฝึกภาษาอังกฤษ ทำยังไงดีนะ?

วันนี้แอดมินขอแนะนำบทความดีๆที่จะช่วยเป็นแนวทางในการพัฒนาตัวเอง

เป็นวิธีการฝึกภาษาอังกฤษในแบบภาพรวมและเข้าใจง่าย ลองมาดูกันเลยค่า

 

1. attitude (ทัศนคติ)

ทัศนคติสำคัญที่สุด เพราะหากเชื่อว่า “เราสามารถพัฒนาได้” และเปิดใจเรียนภาษาอังกฤษแบบองค์รวม

ไม่มัวนั่งท่องประโยคที่เป็น pattern พอเจอบริบทแปลกใหม่กลับใช้งานไม่ได้ ลองปรับวิธีเรียนใหม่

เน้นเข้าใจและต่อยอดได้ในทุกสถานการณ์ มาเรียนรู้เสน่ห์ของภาษาที่แท้จริงกันค่ะ

 

2. evaluate (ประเมินตัวเอง)

การประเมินตัวเอง/ลองทำข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ/ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของเรา

และช่วยให้รู้ว่าเรามีข้อดีและข้อด้อยตรงไหนที่ต้องพัฒนาเพราะจะทำให้เรามีกลยุทธ์ในการอัพสกิลได้อย่างก้าวกระโดดค่ะ

 

3. set goal (ตั้งเป้าหมาย)

เมื่อประเมินตัวเองแล้ว เริ่มตั้งเป้าหมายในการเรียน เริ่มจาก today / monthly/ yearly goal

อย่าเพิ่งกังวลว่าจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ขอให้คิดเสมอว่าปลายทางไม่สำคัญเท่ากับระหว่างทางว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง

บางทีอาจจะได้มากกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก

 

4. get input (รับข้อมูล)

การมี input ที่ดีจะช่วยให้เรามีพื้นฐานแน่น รู้จักคัดกรองข้อมูลในส่วนที่สำคัญ (ไม่เรียนแบบหว่านแห)

เข้าใจหลักการเพื่อต่อยอด และรับให้มากเท่าที่จะทำได้ เช่น คำศัพท์ กฏพื้นฐานที่จำเป็น อ่าน ฟัง ให้มากที่สุดและสม่ำเสมอ

หลังจากนั้นนำความรู้มาจัดเรียงหรือเขียนสรุปด้วยตนเองอีกครั้ง

(ส่วนตัวชอบ brainstorm + mind map )

 

5. do it (ลงมือทำ)

Practice makes perfect. การเรียนภาษาจะยั่งยืนเมื่อเราใช้อย่างสม่ำเสมอ หากเรามี mindset ที่ดีตอนแรกแล้ว

มาถึงขั้นนี้ ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ อย่าลืมเรื่อง grammar พื้นฐาน เพราะทำให้เราใช้ภาษาได้ถูกต้อง ควบคู่กับการฝึกพูดและเขียน

(เริ่มต้นด้วย คิด+พูดกับตัวเอง และเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ)

 

6. pronunciation (การออกเสียง)

การออกเสียงให้ถูกต้องตามหลัก (Phonetics) เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ถนัดสำเนียง (accent) ไหนก็ได้ ไม่มีผิด แต่อยากให้เน้นเรื่อง pronunciation มากเป็นพิเศษตั้งแต่เริ่มฝึก

เพราะหากไม่เข้าใจกฏการออกเสียง ความหมายที่จะสื่อก็เปลี่ยนไป เช่น three tree tea

ตัวอย่างเสียงภาษาอังกฤษพื้นฐานที่แนะนำ : ฝึกเสียง th, v, f, sh, ch, etc.

 

7. technology (ใช้เทคโนโลยีให้เป็น)

ยุคสมัยนี้ทำให้เราเข้าถึงแหล่งความรู้ได้ง่ายและหลากหลายมากขึ้น แต่อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องให้ดี

นำมาเปรียบเทียบและคิดตาม พยายามศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองส่วนหนึ่ง

หากมีคนที่สามารถให้คำแนะนำเราได้จะยิ่งดีค่ะ  แนะนำให้โหลดแอพคู่ใจ หรือเว็บไซต์ประจำตัว

เอาไว้ค้นหาข้อมูลต่างๆ (กำลังทำสรุปรวมแอพ, เว็บไซต์แนะนำให้ ฝากติดตามด้วยนะคะ)

 

8. be “CONSISTENT” (สม่ำเสมอ)

ทุกคนมีเวลาและพื้นฐานไม่เท่ากัน นั่นหมายความว่าเราจะมีจุดเปลี่ยนที่ไม่เหมือนกันเลย

อย่าเพิ่งท้อหากเราคิดว่ายังไม่ดีขึ้นซักที ถ้ามีกลยุทธ์ในการเรียนที่ดี เติม passion ให้ตัวเอง

ฝึกสม่ำเสมอจะช่วยให้เราปลดล็อคสกิลภาษาอังกฤษได้ไวและยั่งยืนขึ้นแน่นอนค่ะ

 

วิธีฝึกภาษาอังกฤษแบบง่าย 8 วิธีที่แนะนำไปด้านบน นักเรียนสามารถปรับสไตล์มาใช้ในแบบที่เราถนัดได้ค่ะ

ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดหรือกดดันตัวเองมากจนเกินไปนะคะ ถ้าเราสามารถประยุกต์ใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผลลัพธ์ในการฝึกภาษาจะเกิดประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้นค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่า

 

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น Required fields are marked *